วัฒนธรรมภาคเหนือที่เกี่ยวกับการเสียชีวิต
- พิธีลอดตาแหลว
ตาแหลว หมายถึงดวงตาของนกเหยี่ยวที่ชอบโฉบเฉี่ยวหรืองับเอาลูกเจี๊ยบไก่ไปกิน
เชื่อกันว่าดวงตาของเหยี่ยวหรือนกแหลวนี้มีแววตาสามารถมองเห็นได้ไกลๆ
เช่นเวลามันบินร่อนไปมาบนท้องฟ้า กางปีกอ้าถลาเล่นลมอย่างสบายใจ
แต่ดวงตามันสอดส่องดูมาเบื้องล่าง เพื่อหาเหยื่อที่จะเอาไปเลี้ยงชีวิตมัน
ยังชีพให้อยู่รอด…พอเห็นเหยื่อมันจะรีบดิ่งหัวโฉบลงมาเอาเหยื่อทันที..ฉับ..งาบติดปากเสยหัวบินกลับขึ้นไปบนท้องฟ้า
ด้วยความเฉียบคมของแววตานกแหลวหรือเหยี่ยว
จากความเชื่อและกุศโลบายผู้คนล้านนาจึงคิดสร้างต๋าแหลวไม้ขึ้นมาเพื่อให้ต๋าแหลวไม้สอดส่องดูแลสิ่งอาถรรพ์
เสนียดจัญไร มิให้เข้ามากรายใกล้ โดยการนำไม้ไผ่มาจักตอกขนาดตามที่ต้องการ
แล้วเลาะเหลาปาดเอาคมผิวไม้ออกให้หมด
หลังจากนั้นจึงนำเส้นตอกมาสานเป็นวงกลมหักทบปลายเส้นตอกให้สานกัน
แล้วปล่อยปลายเส้นตอกคลี่ออกไปคล้ายลำแสงพุ่งออกจากศูนย์กลางหรือดวงตาของแหลวหรือตาเหยี่ยวนกเขา…ทางภาคกลางเรียกกันว่า
“เฉลว”
เมื่อสานเสร็จนำต๋าแหลวไปปักไว้ตามที่ต้องการป้องกันเภทภัย
เสนียดจัญไร ขึด อาถรรพ์ เช่น ไปปักไว้ตามประตูบ้าน
ตามบริเวณที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ บางครั้งหากเป็นงานใหญ่ๆ
ผู้คนจะสานต๋าแหลวเจ็ดชั้น เพื่อให้มีความต้านทานป้องกันหนาแน่นยิ่งกว่าต๋าแหลวธรรมดาทั่วไป
ปัจจุบันการสานต๋าแหลวยังคงมีอยู่ทั่วไปตามบ้านเรือน
ผู้คนชนบทที่ยังคงนับถือต๋าแหลวในงานพิธีต่างๆไม่ว่างานมงคล งานอวมงคล
แม้แต่งานของวัดบางแห่งก็ต้องสานต๋าแหลวไว้เช่นกัน
การลอดตาแหลว คือ พิธีตัดพราย หรือตัดอุบาทว์ ใช้ในกรณีที่มีคนในครอบครัวถึงแก่กรรมอันไม่เหมาะไม่ควร
เป็นการตายผิดธรรมชาติ ซึ่งถือว่าเป็นการตายโหง
เพื่อเป็นการทำให้ครอบครัวอยู่ดีมีสุข ไม่ให้วิญญาณผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วนั้นรบกวน
หรือมาทำอันตรายได้ จึงมีพิธีการตัดพรายหรือตัดอุบาทว์ขึ้นในวันที่จะฌาปนกิจศพผู้ตาย
ญาติจะเชิญผู้ทำพิธีมาทำพิธีตัด โดยให้ทำนอกบ้านก่อนที่จะเคลื่อนศพสู่สุสาน
- พิธีลอยอังคาร
พิธีลอยอังคาร (หมายถึง พิธีการลอย อัฐิ (กระดูก) และ อังคาร (เถ้า)
ลงน้ำ) ข้อมูลเกี่ยวกับการลอยพระอังคารในสมัยกรุงศรีอยุธยานั้นพบข้อมูลน้อยมาก
ซึ่งส่วนมากแล้วจะพบว่าเมื่อพระมหากษัตริย์และหรือเจ้านายพระราชวงศ์ชั้นสูงที่สวรรคตหรือสิ้นพระชนม์ลงนั้น
ในช่วงต้นกรุงศรีอยุธยามักจะกระทำการจัดหาสถานที่ก่อสร้างพระเมรุและทำการเผาในที่นั้น
ส่วนพื้นที่ดังกล่าวก็ยกถวายสร้างขึ้นเป็นวัดในเวลาต่อมา
ส่วนอัฐินั้นก็จะนำบรรจุไว้ในพระโกศหรือหีบสี่เหลี่ยมนำไปบรรจุไว้ที่ท้ายจรนำวิหารหลวงในวัดพระศรีสรรเพชญ
หากเป็นพระราชวงศ์รองมาก็ทำการสร้างพระเจดีย์รายไว้รอบวัดพระศรีสรรเพชญ
ส่วนมากแล้วการลอยพระอังคารจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการจัดการจึงมีหลักฐานอยู่น้อยมากว่ากระทำลอยพระอังคารกันที่ไหนบ้าง
คำว่า “อังคาร” นั้น หมายถึง ถ่านไม้ ถ่านเผา
ถ่านไฟที่กำลังปะทุอยู่ ในคำวัด
หมายถึง เถ้าถ่านของศพ ที่เผาแล้ว แต่มักเข้าใจกันว่าหมายถึงอัฐิหรือกระดูกของคนตายที่เผาแล้ว
และเมื่อทำพิธีเก็บอัฐิและทำบุญเสร็จแล้วนิยมรวบรวมห่อด้วยผ้าขาว
ใส่โถหรือภาชนะที่ดูเหมาะสม แล้วห่อด้วยผ้าขาวนำไปทิ้งแม่น้ำหรือทะเลตอนที่มีร่องน้ำลึก
โดยเชื่อว่าจะทำให้ผู้ล่วงลับได้อยู่ในสถานที่เย็นๆ โดยไม่มีใครรบกวน
การกระทำพิธีแบบนี้เราเรียกว่า ลอยอังคาร
พิธีการลอยอังคารนั้น
สันนิษฐานว่าน่าจะได้รับคตินิยมมาจากอินเดีย เหตุเพราะคนอินเดียถือว่าแม่น้ำคงคาเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ชำระบาปได้
ด้วยเหตุนี้การเผาศพจึงชอบที่จะมาเผากันที่ริมแม่น้ำคงคากันมาก ทั้งนี้ก็เพียงเพื่อจะได้นำกระดูกและเถ้าถ่านทิ้งลงแม่น้ำแห่งนี้
เพราะถ้าไม่ได้สัมผัสกับน้ำในแม่น้ำคงคาแล้วก็จะไม่ได้ขึ้นสวรรค์
หรือไม่หมดบาปนั่นเอง
สำหรับประเทศไทยนั้น
ได้มีการบันทึกในพงศาวดารกล่าวถึงพิธีการลอยอังคาร
โดยเฉพาะการลอยพระอังคารของบรรดาเจ้านายต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน
และสืบเนื่องมากระทั่งกรุงรัตนโกสินทร์ อย่างไรก็ตาม ดังที่กล่าวมาแล้วว่า
พิธีการลอยอังคารนั้นน่าจะมีที่มาจากอินเดีย ก็ยังคงมีความซับซ้อนไปอีกชั้นนึง โดยเชื่อว่าน่าจะมาจากอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดูเป็นหลัก เหตุเพราะถ้าเป็นคติทางพุทธแล้ว
มักจะนิยมเผาศพแล้วเอาอัฐิธาตุ (กระดูก) ฝังและก่อกองดินหรือกองหินตรงที่ฝัง
ซึ่งเรียกกันว่า “สถูป”
ดังนั้นประเทศไทยจึงรับเอาวัฒนธรรมประเพณีนี้มาทั้งสองทาง
คือ ทั้งฮินดูและพุทธ กล่าวคือสำหรับทางพุทธ
ถ้าเป็นคนชั้นสูงก็จะก่อพระเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุ
ถ้าเป็นคนชั้นล่างก็เป็นแต่เพียงฝังอัฐิธาตุหรือเอาไปกองทิ้งไว้โคนต้น
ส่วนพระอังคารหรือถ่านที่เผาพระศพ ก็จะเชิญไปลอยปล่อยไปในแม่น้ำตามคติทางฮินดู
เพิ่งมาเลิกลอยพระอังคาร มีการปรับเปลี่ยนเป็นบรรจุเมื่อรัชกาลที่ 5 มานี้เอง
- ตุงแดง
ตุง
เป็นภาษาล้านนา หมายถึง ธง มีอยู่หลายชนิด มีการใช้ที่แตกต่างกัน
แยกเป็นประเภทใหญ่ๆอยู่ 2 ประเภท
1. ตุงใช้งานมงคล
เช่นตุงตามงานปอยหลวง ตุงปีใหม่ ตุงไจย
2. ตุงที่ใช้งานอวมงคล
เช่น ตุงแดง ตุงเหล็กตุงตอง ตุงสามหาง
ตุงแดงเป็นตุงที่ใช้ในพิธีสวดถอนผีตายโหง
ทำจากผ้า หรือกระดาษสีแดง เวลามีการตายผิดปกติ เช่นเกิดอุบัติเหตุ รถชน ถูกฆ่าตาย
ฯลฯ ทางล้านนามีความเชื่อว่า
จิตวิญญาณของผู้ตายจะไม่ยอมไปไหนถ้ายังไม่ได้สวดถอนออกไป จะต้องนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป มาสวดถอน
ของที่ใช้ในพิธี ก็จะมีสะตวงถอน(ทำจากกาบกล้วย)และตุงแดง
เวลาเห็นตุงสีแดงไม่ใหญ่มาก ปักอยู่ข้างถนน(ภาคเหนือ) แสดงว่ามีอุบัติเหตุ
และมีคนตายตรงนั้น เพราะฉะนั้นอย่าประมาทในการใช้รถใช้ถนน
แหล่งอ้างอิง:
พิธีลอยอังคาร https://www.sanook.com/horoscope/126269/?fbclid=IwAR0c0_rVYPaF3Qih2Foq9LtHaKhbQF081I5lgMBQzbyUDMzIXlJntg0lhU8
พิธีลอดตาแหลว 1.https://www.gotoknow.org/posts/387273fbclid=IwAR2jV5VZ2guUGPNbFKxzUr1SjkDvXWIjchsEgh0pDYUz2zttH5z3G23dy6U
2.https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/699147fbclid=IwAR3ain84ZuLSKImWC7Rp_37hWhBzfMHFZrxG6sMYdVuTDwGQuGAhYSePaNQ
ตุงแดง https://www.stou.ac.th/study/projects/training/text/4/page1-8-50(500).html?fbclid=IwAR3xEiqTBmjelU1sMsjypN1JzwnGXsRDyUAu5eTpgrx-86mYH2E7V8QyMRQ
พิธีลอยอังคาร https://www.sanook.com/horoscope/126269/?fbclid=IwAR0c0_rVYPaF3Qih2Foq9LtHaKhbQF081I5lgMBQzbyUDMzIXlJntg0lhU8
พิธีลอดตาแหลว 1.https://www.gotoknow.org/posts/387273fbclid=IwAR2jV5VZ2guUGPNbFKxzUr1SjkDvXWIjchsEgh0pDYUz2zttH5z3G23dy6U
2.https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/699147fbclid=IwAR3ain84ZuLSKImWC7Rp_37hWhBzfMHFZrxG6sMYdVuTDwGQuGAhYSePaNQ
ตุงแดง https://www.stou.ac.th/study/projects/training/text/4/page1-8-50(500).html?fbclid=IwAR3xEiqTBmjelU1sMsjypN1JzwnGXsRDyUAu5eTpgrx-86mYH2E7V8QyMRQ